•.¸¸.•´´¯`••._.•.. M¥ ฿₤ǿĜ ..•.¸¸.•´´¯`••._.• ll ..>>>>>>>>>> Wellcome<<<<<<<<<<..^O^ ✖

วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

“ ความซื่อสัตย์ ( Integrity ) ” ในการทำงาน .... สำคัญไฉน

ก่อนอื่นต้องถามตัวคุณเองก่อนว่า คุณมีความซื่อสัตย์ ( Integrity) ในการทำงานมากน้อยแค่ไหน และแน่นอนว่าคงจะไม่มีใครตอบว่าตนเองไม่มีความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์จึงเป็นคุณลักษณะที่สำคัญและเป็นที่ต้องการในทุกองค์การ ซึ่งความซื่อสัตย์นอกจากจะหมายถึงการ รักษาความลับ ผลประโยชน์ และทรัพย์สินต่าง ๆ ของบริษัทแล้ว ความซื่อสัตย์ยังหมายรวมไปถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและไม่บิดเบือนจากความเป็นจริง และการปฏิบัติตามระเบียบหรือกฎของบริษัท และยังพบว่าอีกว่ามีหลายองค์การได้กำหนดความซื่อสัตย์เป็นวัฒนธรรมองค์การ (Corporate Culture) หรือคุณค่าร่วม ( Core Value) ที่เกี่ยวข้องกับความคิดความเชื่อที่อยากให้พนักงานทุกคนปฏิบัติ

แล้วทำไมคุณจะต้องมีความซื่อสัตย์ในการทำงาน ..... ความซื่อสัตย์ในการทำงานจะส่งผลโดยตรงต่อคุณลักษณะส่วนบุคคล ( Personal Attribute) ของตัวคุณเองที่คนอื่นมองหรือรับรู้ในตัวคุณว่าเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์หรือไม่ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผลต่อเนื่องไปยังหน่วยงานและองค์การของคุณเอง ทั้งนี้คุณลักษณะของความซื่อสัตย์จะมีความสำคัญและส่งผลต่อตัวคุณและต่อหน่วยงานหรือองค์การของคุณ ขอสรุปได้ดังต่อไปนี้
1. การได้รับ ความไว้วางใจ จากหัวหน้างานของคุณ พนักงานที่มีความซื่อสัตย์ย่อมทำให้หัวหน้างานพร้อมและกล้าพอที่จะมอบหมายงานที่สำคัญหรือเป็นความลับของบริษัทให้กับคุณ เพราะหัวหน้าไว้วางใจตัวคุณเพราะรู้ว่างานที่มอบหมายให้ไปนั้นคุณต้องทำเสร็จและข้อมูลที่คุณทำนั้นมีความถูกต้องอย่างแน่นอน
2. ความน่าเชื่อถือ ได้ของตัวคุณ คุณจะได้รับการยอมรับและการกล่าวถึงในทางที่ดีจากบุคคลรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือแม้กระทั่งลูกค้าของคุณเอง เช่น ยอมรับว่าคุณมีความรับผิดชอบและความตั้งใจทำงาน เนื่องจากคุณไม่เคยที่จะขาดงานหรือมาสาย รวมทั้งข้อมูลที่คุณให้นั้นมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบันเสมอ
3. สร้างผลงาน ( Performance) ของตัวคุณ ความซื่อสัตย์ทำให้คุณมีโอกาสทำงานใหญ่หรือสำคัญ ซึ่งอาจเป็นงานที่มีผลกระทบต่อหน่วยงานหรือองค์การ โดยคุณจะมีโอกาสแสดงฝีมือการทำงานของคุณและโอกาสนี้เองย่อมจะส่งผลต่อเนื่องไปยังผลผลการปฏิบัติงาน ( Performance) และมูลค่าเพิ่ม ( Added Value) ของตัวคุณเอง
4. รักษาผลประโยชน์ของหน่วยงาน/บริษัท หากคุณมีความซื่อสัตย์แล้วล่ะก็ ย่อมหมายถึงคุณไม่ได้เอาเปรียบหน่วยงานและบริษัท เนื่องจากคุณทำงานอย่างเต็มที่ ได้ปฏิบัติตามระเบียบและรักษาทรัพย์สินของบริษัท และรวมถึงคุณไม่เอาความลับของบริษัทไปเปิดเผยให้คู่แข่งรับรู้ ซึ่งหมายถึงคุณกำลังรักษาผลประโยชน์ให้กับหน่วยงานและบริษัทของคุณเอง

มาถึงคำถามที่ว่า หากจะวัดหรือประเมินความซื่อสัตย์ได้อย่างไร เช่น หากถามว่านาย ก มีความซื่อสัตย์มากกว่านาย ข นั้น เราจะพิจารณาหรือประเมินได้จากอะไรได้บ้าง และเพื่อทำให้องค์การสามารถประเมินหรือวัดความซื่อสัตย์ได้ จึงทำให้องค์การได้กำหนดความซื่อสัตย์เป็นพฤติกรรมหรือความสามารถอย่างหนึ่ง ( Competency) ซึ่งสามารถกำหนดได้เป็นความสามารถหลัก ( Core Competency) ที่เป็นความสามารถหรือพฤติกรรมที่ใช้วัดหรือประเมินพนักงานสำหรับทุกคนและทุกตำแหน่งงาน นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดเป็นความสามารถในงาน ( Job Competency) ได้อีกด้วย ซึ่งพฤติกรรมของความซื่อสัตย์นั้นสามารถกำหนดเป็นพฤติกรรมออกมาแยกเป็นระดับต่าง ๆ เพื่อใช้ประเมินผลและพัฒนาพนักงานได้ โดยขอยกตัวอย่างของการแบ่งพฤติกรรมความซื่อสัตย์ออกเป็น 5 ระดับ ดังต่อไปนี้

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

TAURUS

TAURUS - The Enduring One
Charming but aggressive. Can come off as boring, but they are not. Hard workers. Warm-hearted. Strong, has endurance. Solid beings who are stable and secure in their ways. Not looking for shortcuts. Take pride in their beauty. Patient and reliable. Make great friends and give good advice. Loving and kind. Loves hard - passionate. Express themselves emotionally. Prone to ferocious temper-tantrums. Determined. Indulge themselves often. Very generous.
12 years of bad luck if you do not forward.


ราษีพฤษภ -- หนึ่งงานทนทาน

แต่มีเสน่ห์ก้าวร้าว สามารถหลุดออกมาเป็นน่าเบื่อ แต่พวกเขาไม่ได้ แรงงานอย่างหนัก ใจดีที่แข็งแกร่ง, ความอดทนมี สิ่งมีชีวิตที่เป็นของแข็งที่มีความมั่นคงและปลอดภัยในรูปแบบของพวกเขา ไม่ได้มองหาทางลัด มีความภาคภูมิใจในความงามของพวกเขา ผู้ป่วยและความน่าเชื่อถือ ทำให้เพื่อนที่ดีและให้คำแนะนำที่ดี ความรักและชนิด รักยาก -- หลงใหล การแสดงออกทางอารมณ์ มีแนวโน้มที่จะรุนแรง tantrums อารมณ์ - กำหนด มักจะสร้างความสุขให้ตัวเอง ใจกว้างมาก

12 ปีของโชคร้ายถ้าคุณไม่ไปข้างหน้า

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Joker story

The Pirate

Once there was a retired pirate so he decides to live with his brother. 

กาลครั้งหนึ่ง มีโจรสลัดแก่วัยเกษียณคนหนึ่ง เขาตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่กับ น้องชายของเขา

The pirate walks up to his brothers house and knocks on the door. 

โจรสลัดคนนั้น เดินเข้าไปที่บ้านของน้องชายของเขา และก็เคาะประตู 

and his brother answers the door and says, "Oh my gosh , 
น้องชายของเขาก็ออกมาเปิดประตู และพูดว่า โอ้พระเจ้า 

''what happened to your hand!?! " 

เกิดอะไรขึ้นกับแขนของนาย

The pirate said, "I lost it in a sword fight ,


 โจรสลัดตอบว่า ฉันเสียมันไป ระหว่างฟันดาบ 

but now I have a hook." แต่ตอนนี้ฉันมีตะขอเกี่ยวแล้ว

Then the brother said, "What about your leg?"  

จากนั้นน้องชายของเขาก็ถามว่า แล้วเกิดอะไรขึ้นกับขาของนายล่ะ

The pirate said, "A cannonball hit it , 
โจรสลัดก็พูดว่า โดนลูกปืนใหญ่มา 

but now I have a peg leg ." แต่ตอนนี้ฉันก็มีขาหยั่งแล้ว

Then the brother said, "Well , what about your eye?" 
จากนั้น

น้องชายก็ถามว่า แล้วเกิดอะไรขึ้นกับตาของนายล่ะ 

The pirate said, "I got some dust in it ." 
โจรสลัดก็ตอบว่า ฉันโดนฝุ่นเข้าตา  

The brother said, "How could you lose your eye by just 

getting some dust in it?" น้องชายของเขาก็ถามว่า แค่ฝุ่นเข้าตา มันทำให้นายตาบอดได้อย่างไร 

Then the pirate said, 
โจรสลัดก็ตอบว่า "It was my first day with my hook!

มันเป็นวันแรกที่ได้แขนตะขอเกี่ยวนี่มา...